แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ University rankings แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ University rankings แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การจัดลำดับมหาวิทยาลัยโลก (World University Ranking) 4

    มหาวิทยาลัยของประเทศไทยที่อยู่ในการจัดลำดับของ THE ปี 2015-2016 มีอยู่  7 แห่งได้แก่

501-600    Mahidol University

601-800    Chiang Mai University

601-800    Chulalongkorn University

601-800    Khon Kaen University

601-800    King Mongkut’s University of Technology Thonburi

601-800    Prince of Songkla University

601-800    Suranaree University of Technology

    น่าสนใจว่าแม้ว่าจะอยู่ในลำดับ 501-600 แต่มหาวิทยาลัยมหิดลมีรายได้จากอุตสาหกรรมอยู่ใน Top 20 ของโลกเลยทีเดียว


การจัดลำดับมหาวิทยาลัยโลก (World University Ranking) 3

   มหาวิทยาลัยในเอเชียที่ได้รับการจัดลำดับสูงสุงของ THE คือ National University of Singapore อยู่ลำดับที่ 26 อีกมหาวิทยาลัยที่เป็นที่รู้จักคือ University of Tokyo อยู่ลำดับที่ 43 








     ประเด็นปัญหาที่มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นพบมากคือหมวด international outlook เช่นจำนวนนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งมหาวิทยาลัย Tokyo ได้คะแนนค่อนข้างต่ำ และปัญหานี้ดูเหมือนจะพบในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นเกือบทุกแห่งที่ติดอันดับอยู่ใน THE 

การจัดลำดับมหาวิทยาลัยโลก (World University Ranking) 2

   สำหรับเกณฑ์ในการจัดลำดับมหาวิทยาลัยของ THE นั้นทาง THE ระบุว่าเป็นการประเมินมหาวิทยาลัยที่เน้นการวิจัย (research- intensive university) โดยใช้เกณฑ์ 13 ตัว เพื่อประเมินองค์ประกอบหลักของมหาวิทยาลัย คือ การสอน (teaching), การวิจัย (research), การถ่ายทอดองค์ความรู้ (knowledge transfer) และ ความเป็นสากล (international outlook) โดยในปี 2015-2016 นี้เขาได้แบ่งกลุ่มตัวชี้วัดออกเป็น 5 กลุ่มคือ
1. การสอน (สิ่งแวดล้อมของการเรียนการสอน) 30%
   - การสำรวจชื่อเสียงด้านการสอน  15%
   - สัดส่วนอาจารย์ต่อนักศึกษา 4.5%
   - สัดส่วนนักศึกษาปริญญาเอกต่อปริญญาตรี 2.25%
   - การให้ทุนปริญญาเอกแก่บุคคลากร  6%
   - รายได้ 2.25%
2. การวิจัย (ปริมาณ, รายได้, ชื่อเสียง) 30%
   - ชื่อเสียง 18%
   - เงินวิจัย 6%
   - ผลงานตีพิมพ์บนฐาน Scopus 6%
3. การอ้างอิง บนฐาน Scopus  30%
4. ความเป็นสากล (บุคคลากร, นักศึกษา, การวิจัย) 7.5%
   - สัดส่วนนักศึกษาต่างชาติต่อนักศึกษาในประเทศ 2.5%
   - สัดส่วนอาจารย์ต่างชาติต่อนักศึกษาในประเทศ 2.5%
   - ความร่วมมือระดับนานาชาติโดยดูจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ 2.5%
5. รายได้จากอุตสาหกรรม (การถ่ายทอดองค์ความรู้) 2.5%

   นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยที่ไม่ได้สอนระดับปริญญาตรี หรือมหาวิทยาลัยที่มีงานวิจัยน้อยกว่า 200 บทความต่อปีตลอดช่วงปี 2010 -14 จะไม่ได้รับการพิจารณา

   ส่วนการเก็บข้อมูลนั้นเป็นการเก็บข้อมูลโดยตรงจากมหาวิทยาลัยต่างๆ นอกจากนี้ข้อมูลบางอย่างเช่น ชื่อเสียงมหาวิทยาลัยจะได้จากการทำสำรวจ (survey) แบบออนไลน์ 
  

วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การจัดลำดับมหาวิทยาลัยโลก (World University Ranking)

      การจัดลำดับมหาวิทยาลัยทั่วโลกไม่ใช่เรื่องใหม่อีกแล้วในปัจจุบัน ซึ่งเราจะได้ยินข่าวอยู่บ่อยๆ ตามหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อมีการประกาศผลการจัดลำดับมหาวิทยาลัยออกมากจากหน่วยงานต่างๆ โดยหน่วยงานหนึ่งที่เราได้ยินชื่อกันมาค่อนข้างนานแล้วก็คือ Times Higher Education (THE) ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2004 หรือเกือบ 12 ปีมาแล้ว


    สำหรับผลการจัดลำดับในปี 2015-2016 ที่ผ่านมานั้น มหาวิทยาลัย 10 อันดับต้นของโลกเป็นมหาวิทยาลัยในอเมริกาถึง 6 แห่ง อังกฤษ 3 แห่ง และสวิตเซอร์แลนด์ 1 แห่ง โดย California Institute of Technology เป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับการจัดลำดับให้เป็นอันดับ 1 ต่อเนื่องมาถึง 5 ปีติดต่อกัน นอกจากนี้ยังมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอย่าง Oxford, Stanford, Cambridge, Massachusetts Institute of Technology, Harvard เป็นต้น

https://www.timeshighereducation.com/news/world-university-rankings-2015-2016-results-announced

   นอกจากนี้ในการจัดลำดับทั้ง 800 นั้นมีมหาวิทยาลัยในยุโรปถึง 345 มหาวิทยาลัย และเอเชียอีกถึง 203 มหาวิทยาลัย





   สำหรับการจัดลำดับเฉพาะมหาวิทยาลัยในเอเชียนั้น 10 อังดับได้แก่
1. University of Tokyo
2. National University of Singapore
3. University of Hong Kong 
4. Peking University
5. Tsinghua University
6. Seoul National University
7. Hong Kong University of Science and Technology 
8. Korea Advanced Institute of Science and Technology (KAIST)
9. Kyoto University 
10. Nanyang Technological University